เมื่อประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับเลือกไม่รักษาสัญญาแฟรงก์และแคลร์ตัดสินใจที่จะเลิกสวามิภักดิ์และโยนกฎเกณฑ์ทุกอย่างทิ้งไป

แฟรงก์ออกอุบายใช้นักข่าวสาว โซอี บาร์นส์ ในการดัดแปลงข่าวที่จะช็อคทำเนียบขาว ในขณะที่แคลร์กำลังทำบางสิ่งอย่างเลือดเย็นในที่ทำงาน

แฟรงก์ทำลายกลุ่มผู้นำในรัฐสภา ส่วนปีเตอร์ รุสโซต้องเลือกระหว่างการเมืองกับครอบครัว

การต่อสู้ของแฟรงก์เรื่องกฎหมายการศึกษากำลังส่งผลร้ายต่อความฝันของแคลร์ ส่วนโซอีก็ไม่สามารถแยกงานออกจากเรื่องอื่นๆ ได้

แฟรงก์โต้กลับไปยังเหล่าครูที่กำลังประท้วงอยู่ ส่วนแคลร์ก็สะเทือนใจกับคำสารภาพก่อนตายของใครบางคน

ท่ามกลางความวุ่นวาย แคลร์ท้าทายแฟรงก์ ส่วนโซอีก็เริ่มรู้สึกดีกับใครบางคน ในขณะที่ปีเตอร์กำลังยื่นคำขาด

แฟรงก์ดิ้นรนเพื่อจะรักษาแผนของเขาไว้ ในขณะที่แคลร์ถูกหลอกหลอนโดยสิ่งที่เธอเลือกจากทั้งในอดีตและปัจจุบัน ส่วนโซอีกลายเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่

ครอบครัวอันเดอร์วูดรับมือกับสองสิ่งที่อาจทำลายแผนของพวกเขาลง แฟรงก์กำลังสอนตัวแทนของเขาในฐานะวิป ในขณะที่แคลร์พลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายโจมตี

ท่ามกลางวิกฤติพลังงาน แฟรงก์และทัสค์เลิกเป็นพันธมิตรเพราะความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนัก ส่วนลูคัสก็ต้องตัดสินใจบางอย่างที่สำคัญ ขณะที่สแตมเปอร์ใกล้ชิดกับเรเชลมากขึ้น

แม้ว่าจะมีความบาดหมางกัน ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัววอล์กเกอร์กับอันเดอร์วูดก็แน่นแฟ้นขึ้น แต่ระหว่างแฟรงก์กับทัสค์คือสงครามแบบเอาเป็นเอาตาย

ทุกอย่างดราม่ายิ่งขึ้นเมื่อทัสค์ลอบกัดครอบครัวอันเดอร์วูดด้วยเรื่องอื้อฉาว เฟรดดี้และธุรกิจร้านอาหารของเขาก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย

แฟรงก์ประกาศสงครามในสภาเพื่อเร่งนโยบายเรื่องงานของเขา ในขณะที่แคลร์ถกเถียงกับทูตรัสเซีย

ทุกอย่างจบลงไม่ดีนักเมื่อแฟรงก์ แจ็คกี้ และเฮเธอร์ต้องปะทะกันในการอภิปรายครั้งแรก ในขณะที่ทอมร่วมทีมกับแคลร์ในการออกหาเสียง

แฟรงก์ชูประเด็นเรื่องสงครามก่อการร้ายเพื่อขัดแย้งกับภาพลักษณ์เรื่องความมั่นคงของคอนเวย์ ส่วนทอมก็ร่วมทีมกับแคลร์ในการรณรงค์หาเสียง